กว่าพันปีมาแล้วที่ผู้คนยุคโบราณกำหนดให้ยอดเขาของพนมดงรักเป็นดังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาสร้างปราสาทอันยิ่งใหญ่ขึ้นที่นั่นเพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าสูงสุด ภาพจากแผ่นดินเขมรต่ำโบราณเมื่อมองขึ้นไปยังเขาพระวิหาร จึงเป็นภาพแทนของเขาไกรลาส ศูนย์กลางแห่งจักรวาล โดยมีตัวปราสาทพระวิหารเป็นดั่งวิมานของพระศิวะ ล่องลอยเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ การเดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทพระวิหารไม่สามารถเดินขึ้นบันไดทางฝั่งไทยได้อีกต่อไป เนื่องจากการปิดพรมแดนหลังความขัดแย้งเรื่องเส้นเขตแดนได้ปะทุขึ้นในปี พ.ศ. 2551 แต่ทั้งหมดนั้นมิได้เป็นอุปสรรคสำหรับผู้หลงไหลในความวิจิตรงดงามของอารยธรรมปราสาทหินโบราณแต่อย่างใด
ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรล้านช้างร่มขาวหลวงพระบาง ผ่านกาลเวลาแห่งการช่วงชิงอำนาจทั้งในยุครัฐจารีต และการล่าอาณานิคม จนกระทั่งก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของรัฐประชาชาติยุคใหม่ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ผ่านร้อนผ่านหนาว มีทั้งความทุกข์ ความสุข และความเสื่อม หล่อหลอมให้หลวงพระบางกลายเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สงบเงียบในวันนี้ แต่ทว่ายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ทุกคนอยากมาเยี่ยมเยือน ในฐานะเมืองมรดกโลก
หลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ชุมนุมเจ้าพระฝาง แห่งเมืองสวางคบุรี เป็นหนึ่งในชุมนุมอิสระที่มีอิทธิพลแผ่ขยายอยู่ในแถบหัวเมืองเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอาชนะชุมนุมพิษณุโลกได้ ทำให้ชุุมนุมเจ้าพระฝางมีอำนาจอยู่เหนืออาณาเขตที่เทียบเท่ากับแคว้นสุโขทัยเดิม แต่ทว่าในที่สุด สมเด็จพระเจ้าตากสินก็สามารถปราบชุมนุมเจ้าพระฝางลงได้สำเร็จเป็นชุมนุมสุดท้าย ส่งผลให้กรุงธนบุรีมีความมั่นคง และมีขอบขัณฑสีมายิ่งใหญ่ไพศาล เหมือนเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาในอดีต เรื่องราวการปราบชุมนุมเจ้าพระฝางที่ถูกบันทึกในพงศาวดาร ช่างเต็มไปด้วยสีสัน และเรื่องราวอันพิศดารมากมาย อาจเป็นเพราะเจ้าพระฝางเป็นผู้นำที่มีบุคลิกพิเศษ แตกต่างไปจากผู้นำชุมนุมอื่น ๆ ด้วยสถานภาพ "พระภิกษุ" ของเจ้าพระฝาง ทำให้หลายช่วงตอนในพงศาวดาร กล่าวอ้างถึงบุญญาบารมีอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทั้งหมดก็เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปราบปรามกลุ่ม "อลัชชี" ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2322 ที่อาณาจักรล้านช้างร่มขาวเวียงจันทน์ได้ตกเป็นประเทศราชของสยาม เจ้านายลาวหลายพระองค์ได้ถูกจับเป็นองค์ประกัน ภายใต้การควบคุมของราชสำนักกรุงเทพ รวมถึง “เจ้าอนุวงศ์” หนึ่งในกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวลาวทั้งปวง พระองค์มีบทบาทสำคัญต่อราชสำนักสยามเป็นอย่างยิ่ง แต่อีกด้านหนึ่ง พระองค์ก็พยายามเดินเกมการเมืองเพื่อปลดแอกเอกราชจากสยามด้วยเช่นกัน จนนำมาสู่สงครามครั้งสำคัญระหว่าง “สยาม-เวียงจันทน์” ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคอุษาคเนย์ตราบจนถึงปัจจุบัน และนำไปสู่มหาสงคราม “อานามสยามยุทธ” ในอีกไม่นาน
เทวสถานที่ผู้คนมักไม่รู้ว่า ทิพย์วิมานอันเป็นที่สถิตย์ขององค์ศิวะเทพนี้ ถูกสถาปนาขึ้นท่ามกลางบริบท และความเป็นมาอย่างไร หาคำตอบได้ในประวัติศาสตร์นอกตำรา
สุโขทัย ตามประวัติศาสตร์ในตำราเรียนกล่าวว่าเป็น “ราชธานีแห่งแรกของไทย” ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องราวของ “ชนชาติไทย” ที่เคลื่อนมาลงมาจาก เทือกเขาอัลไต ความเชื่อดังกล่าวฝั่งรากลึกลงในความเชื่อของคนไทยนานหลายสิบปีสืบมาถึงปัจจุบัน แต่แท้จริงต้นกำเนิดของสุโขทัยนั้น มีมานานไม่ต่ำกว่า 4,000 ปี จากรากเหง้าตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ สู่ยุคทวารวดี และค่อยๆพัฒนาบ้านเมือง กลายเป็น “สถานีรวบรวมสินค้า” ให้กับ “รัฐละโว้” ทางตอนล่าง ภายใต้การกำกับดูแลของกลุ่มตระกูล “ศรีนาวนำถม” โดยมีพ่อขุนศรีนาวนำถมเป็นผู้นำคนสำคัญ แต่ภายหลังเมื่อสิ้นรัชสมัยพ่อขุนศรีนาวนำถม ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในสุโขทัยเริ่มปรากฎชัดเจนขึ่น เมื่อ “พ่อขุนผาเมือง" กับ "พ่อขุนบางกลางหาว" ผนึกกำลังขับไล่ "ขอมสบาดโขลญลำพง" ขุนนางเขมร ออกไปจากเมืองสุโขทัย และต่อมาสถาปนาราชวงศ์ "พระร่วง" ขึ้นปกครองเมืองสุโขทัยศรีสัชนาลัยสืบต่อมา และพัฒนาบ้านเมืองต่อมาอีกหลายยุคสมัยจนบ้านเมืองรุ่งเรืองในรัชกาล "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" แต่ภายหลังเมื่อสิ้นรัชกาลพ่อขุนรามคำแหงมหาราช บ้านเมืองสุโขทัยถูกลดบทบาททั้งทางการค้า และทางการเมืองเมื่อรัฐอยุธยาทางตอนล่าง เข้ารุกราน และช่วงชิงบทบาททางการค้า ทำให้สุโขทัยค่อยๆ “ร่วงโรย” ลงไปตามกาลเวลา และในภายหลังถูกสถาปนาขึ้นใหม่ เป็น “รัฐในอุดมคติ" ของชนชั้นนำสยามในยุคต่อมา
เมียเช่า เมียฝรั่ง ลูกครึ่ง ทัศนคติเชิงลบที่ฝังรากลึกในสังคมไทย หากเราไม่เปิดใจสักนิดเพื่อฟังเรื่องราวของพวกเธอ ว่าอะไรคือเหตุผล และปัจจัยที่นำพาชีวิตของผู้หญิงไทยส่วนหนึ่งให้เลือกเดินบนเส้นทางนี้ เส้นทางที่วันนี้สังคมไทยอาจเดินมาถึงทางหลายแพร่ง เส้นทางที่เราควรต้องพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน นั่นเพราะ "สงคราม" "เงินตรา" และ "หน้าที่" ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่แยกจากกันได้ยากเหลือเกิน
เวียงแก้ว หรือ พระราชวังหลวงแห่งล้านนา อันประกอบด้วย หอคำ และ คุ้มหลวง ของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ที่นี่ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งราชอาณาจักรมาตั้งแต่ยุคเริ่มสร้างนครเชียงใหม่ในสมัยพญามังราย แต่เวียงแก้วยังแสดงถึงความหมายสูงสุดแห่ง “อำนาจราชศักดิ์” ของพระมหากษัตริย์ล้านนามาอย่าต่อเนื่องไม่ขาดตอน เมื่อสยามเข้าครอบครองล้านนาในยุค “ปฎิรูปการปกครอง” เวียงแก้ว หอคำ และคุ้มหลวงได้ถูกลดความสำคัญลงไป พื้นที่ด้านใต้ของเวียงแก้วถูกโอนให้กับรัฐบาลสยามเมื่อปี พ.ศ. 2446 เพื่อสร้างเป็นเรือนจำประจำมณฑลพายัพ เรียกว่า “คอกหลวง” หรือ “คุกหลวง” ต่อเนื่องสู่การเป็นเรือนจำกลางเชียงใหม่ และทัณฑสถานหญิงในเวลาต่อมา เวียงแก้วจึงกลายเป็นเพียงอดีตที่เคยรุ่งเรือง และถูกฝังกลบอยู่ใต้ผืนดินมาอย่างยาวนานนับร้อยปี การขุดค้นทางโบราณคดีของกรมศิลปากร หลังมีการย้ายทัณฑสถานหญิงออกไปนอกเมืองเชียงใหม่ ทำให้พบร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของล้านนาอีกครั้ง แต่นั่นกลับเกิดคำถามตามมามากมายถึงการกำหนดทิศทางอนาคตของพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ล้านนาแห่งนี้ในอนาคต
ในสมัย ร. 5 สยามต้องจำใจแลกดินแดนพระตะบองอันอุดมสมบูรณ์ให้ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการได้ตราดและด่านซ้ายคืนมา ทำให้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เจ้าเมืองพระตะบองตัดสินใจโยกย้ายเข้าสู่ดินแดนสยามเพื่อตั้งถิ่นฐานใหม่ หลังตระกูลอภัยภูเบศรปกครองพระตะบองมานานกว่า 100 ปี ทุกวันนี้ยังมีเรื่องราวแห่งเมืองพระตะบองยังคงปรากฏเป็นหลักฐานคอยย้ำเยือนถึงความทรงจำในอดีตของผู้คนอยู่อีกมากมาย
ปาตานี รัฐอันเก่าแก่ และรุ่งเรืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน การเกิดขึ้น และดำรงอยู่ของรัฐแห่งนี้ แทบจะถูกพูดถึงน้อยมากในประวัติศาสตร์กระแสหลัก อาจเพราะถูกบดบังจากประวัติศาสตร์ชุดใหญ่ที่มุ่งหล่อหลอมความเป็นตัวตนคน "ไทย" จนหลงลืมไปว่า บ้านเมืองของเราล้วนเต็มไปด้วยความหลากหลาย และประวัติศาสตร์ที่มีสีสันอย่างยิ่ง
“อารยธรรมอินเดียใต้ คือรากแก้วของวัฒนธรรมไทยและอุษาคเนย์” เป็นคำกล่าวที่ “ไมเคิล ไรท” นักเขียน นักคิดและผู้เชี่ยวชาญอินเดียใต้ของไทยได้กล่าวย้ำให้เห็นถึงความเป็น “พหุวัฒนธรรม” ของสังคมไทยที่ได้หลอมรวมเอาวัฒนธรรมที่หลากหลายมาไว้ด้วยกันอย่างแนบเนียน เพื่อค้นหาร่องรอยสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างอินเดียใต้ และอุษาคเนย์รวมถึงประเทศไทย นี่คือเหตุผลที่ทำให้ประวัติศาสตร์นอกตำราออกเดินทางสำรวจรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย